Page 7 - แผนยุทธศาสตร์การบริหาร คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น พ.ศ.2561-2564
P. 7

แผนยุทธศาสตร์การบริหาร  พ.ศ. 2561-2564
                     คณะแพทยศาสตร์  มหาวิทยาลัยขอนแก่น


            ยังคงปฏิบัติงำนในภำคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นไปตำมวัตถุประสงค์ของกำรก่อตั้งคณะฯ อย่ำงไรก็ตำม
            เนื่องจำกยังคงมีปัญหำกำรกระจำยแพทย์ของประเทศ ท�ำให้อัตรำส่วนแพทย์ต่อประชำกรของภำคตะวันออก

            เฉียงเหนือยังคงต�่ำที่สุดในประเทศ (1:3,338 เทียบกับ 1:710 ในกรุงเทพฯ และ 1:2,417 ในภำคเหนือ) ดังนั้น
            แม้จะมีกำรเปิดคณะแพทยศำสตร์เพิ่มขึ้นอีก 3 สถำบันในภำคตะวันออกเฉียงเหนือ ก็ยังไม่เพียงพอ คณะฯ
            จึงยังคงต้องผลิตบัณฑิตแพทย์เพื่อแก้ไขปัญหำกำรขำดแคลนแพทย์ในภูมิภำคต่อไป


                   ในด้ำนกำรจัดกำรศึกษำ คณะฯได้จัดให้มีกำรเรียนกำรสอนในระดับแพทยศำสตรบัณฑิตและบัณฑิต
            ศึกษำ และคณะฯได้ปรับปรุงหลักสูตรแพทยศำสตรบัณฑิตจนได้รับกำรรับรองมำตรฐำนในระดับสำกล (WFME)
            และมีแผนพัฒนำมำตรฐำนดังกล่ำวไปยังหลักสูตรแพทย์ระดับหลังปริญญำ นอกจำกนี้ยังมีแผนกำรพัฒนำ
            หลักสูตรนำนำชำติ และหลักสูตร Dual Degree Program ในระดับบัณฑิตศึกษำปรีคลินิก เพื่อยกระดับ
            มำตรฐำนให้เข้ำสู่สำกล และเพิ่มคู่ควำมร่วมมือกับสถำบันในระดับนำนำชำติ



                   ปัญหำและอุปสรรคที่ส�ำคัญของกำรจัดกำรเรียนกำรสอนหลักสูตรแพทยศำสตรบัณฑิตในปัจจุบัน คือ
            กำรจัดกำรเรียนกำรสอนในชั้นคลินิก เนื่องจำกผลกระทบจำกระบบบริกำรสุขภำพของประเทศที่เปลี่ยนไป
            ท�ำให้โรงพยำบำลศรีนครินทร์กลำยเป็นโรงพยำบำลรับส่งต่อผู้ป่วยที่เกินขีดควำมสำมำรถในกำรรักษำของ
            โรงพยำบำลต่ำงๆ ทั่วภำคตะวันออกเฉียงเหนือ ผู้ป่วยที่มำรักษำจึงเป็นผู้ป่วยที่รักษำยำก อำกำรหนักและมี
            ควำมซับซ้อนมำกขึ้นเรื่อยๆ ผู้ป่วยเหล่ำนี้จึงเหมำะส�ำหรับกำรฝึกอบรมแพทย์ประจ�ำบ้ำนและแพทย์ประจ�ำบ้ำน
            ต่อยอด (Fellowship) แต่อำจจะไม่เหมำะส�ำหรับกำรฝึกปฏิบัติของนักศึกษำแพทย์ทั่วไป ซึ่งคณะฯ ได้แก้ไขปัญหำ
            โดยกำรส่งนักศึกษำไปฝึกปฏิบัติงำนในโรงพยำบำลของกระทรวงสำธำรณสุข ซึ่งก็สำมำรถแก้ไขปัญหำได้ระดับ
            หนึ่ง แต่เนื่องจำกในปัจจุบันโรงพยำบำลเหล่ำนี้ได้รับนักศึกษำตำมโครงกำรผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชำวชนบทเป็น
            ของตนเองจึงท�ำให้ไม่สำมำรถรับนักศึกษำเพิ่มขึ้นได้มำกนัก ดังนั้นคณะฯ จึงต้องพิจำรณำถึงควำมจ�ำเป็นของ
            กำรมีโรงพยำบำลเพื่อกำรเรียนกำรสอน (Teaching hospital) แห่งใหม่ เพื่อรองรับนักศึกษำแพทย์ที่ขึ้นเรียน

            ชั้นคลินิกที่โรงพยำบำลศรีนครินทร์ โดยเป็นโรงพยำบำลที่มีเครือข่ำยดูแลผู้ป่วยทั้งในระดับปฐมภูมิ ทุติยภูมิ
            และตติยภูมิ ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ของนักศึกษำแพทย์และนักศึกษำคณะต่ำงๆ ในศูนย์วิทยำศำสตร์สุขภำพ
            ดังนั้นในอนำคตโรงพยำบำลฯ ใหม่นี้จะเป็นโรงพยำบำลหลักส�ำหรับกำรจัดกำรศึกษำระดับปริญญำแพทย
            ศำสตรบัณฑิต (Undergraduate school) และโรงพยำบำลศรีนครินทร์จะเป็นโรงพยำบำลส�ำหรับกำรฝึกอบรม
            แพทย์หลังปริญญำ (Postgraduate school)


                   ในด้ำนกำรวิจัย คณะฯ ได้ผลิตผลงำนวิจัยเพิ่มมำกขึ้นตำมล�ำดับ จำก 230 เรื่องในปี 2553 เป็น 397
            เรื่อง ในปี 2560 โดยคณะฯมีกำรสนับสนุน ทั้งในด้ำนแหล่งทุนวิจัย เครื่องมือวิจัย รวมถึงสิ่งอ�ำนวยควำมสะดวก
            อื่นๆ เพื่อผลักดันให้เกิดนักวิจัยหน้ำใหม่ ตำมทิศทำงกำรพัฒนำกำรวิจัย ของมหำวิทยำลัยขอนแก่น ในกำร

            มุ่งสู่กำรเป็นมหำวิทยำลัยแห่งกำรวิจัย อีกทั้งคณะฯ มีกำรสร้ำงเครือข่ำยควำมร่วมมือด้ำนกำรวิจัยกับ
            มหำวิทยำลัยชั้นน�ำ และนักวิจัยชั้นน�ำของโลก โดยเฉพำะกับมหำวิทยำลัยที่ได้รับกำรจัดอันดับ 1 - 500 ของ
            QS World University ranking รวมถึงกำรพัฒนำงำนวิจัยจำกโจทย์ปัญหำสุขภำพในพื้นที่ ที่สอดรับกับควำม
            สนใจระดับโลก ซึ่งจะท�ำให้สำมำรถเลื่อนอันดับของ QS World University Rankings by subject : Medicine
            ให้สูงขึ้นได้ แต่คณะฯ ยังต้องพัฒนำงำนวิจัยทั้งในด้ำนปริมำณและคุณภำพ เพื่อให้ได้งำนวิจัยที่มี Impact factor


                                                      2
   2   3   4   5   6   7   8   9   10   11   12